งาน Nap ครั้งที่ 12 ปี 2011
งานนิมมานเหมินท์ อาร์ตแอนด์ดีไซน์ พรอเมอนาด ครั้งที่ 12
(The 12th Nimmanhemin Art and Design Promenade)
ในปีนี้กำหนดเวลาจัดงาน 6 วัน ตั้งแต่วัน ที่ 7 - วันที่ 12 ธันวาคม 2553
เวลา 10.00-22.00 น. ณ บริเวณซอย 1 ถนนนิมมานเหมินท์ ข้างโรงแรม อมารีรินคำ
ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 1 ย่านเล็กๆ ที่มีชีวิตชีวาของงานออกแบบและศิลปะร่วมสมัย
บ้านเรือน และสีสันของร้านค้า งานศิลปะ งานดีไซน์ ของตกแต่งบ้าน
รวมถึงที่พักอาศัยของชาวเชียงใหม่
ในปี 2554 นี้ งานนิมมานเหมินท์ อาร์ท แอนด์ดีไซน์พรอเมอนาด "Make a Move"
ฉลองครบ 12 ปี ด้วยร้านเก๋กว่า 70 ร้าน
รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมสุดพิเศษมาให้รางวัลตัวเอง กับมุมเล็กๆ
แต่เต็มไปด้วยสีสันที่ถนนนิมมานเหมินท์แห่งนี้
งานอาร์ตงามๆที่ถนนซอย 1 นิมมาน
ติดตามกันได้เพิ่มเติมที่
http://www.nimmansoi1.com/
วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554
เลื่อนจัดงานพืชสวนโลก เป็นวันที่ 14 ธันวาคม 2554 - 14 มีนาคม 2554
จังหวัดเชียงใหม่ เลื่อนการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ฯ ราชพฤกษ์ 2554
ไปวันที่ 14 ธันวาคม 2554 ถึง 14 มีนาคม 2555
ซึ่งขณะนี้มีผู้จองบัตรเข้าชมแล้ว 1 แสน 4 หมื่นใบ
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายอุทัย นพคุณวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 และนายกัมพล นิสิตสุขเจริญ หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักบริหารจัดการงานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติ ฯ ราชพฤกษ์ 2554 ร่วมแถลงเลื่อนการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ออกไปจากเดิมวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2555 มาเป็นวันที่ 14 ธันวาคม 2554 ถึง 14 มีนาคม 2555 แทน เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการจัดงานและความไม่สะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่จะมาชมงาน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการจัดงาน ได้เร่งแจ้งเลื่อนการจัดงานไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจองบัตรเข้าชมแล้ว 1 แสน 4 หมื่นใบ คิดเป็นมูลค่า 14 ล้านบาท โดยคณะกรรมการจัดงานตั้งเป้าไว้ 2 ล้านใบ ซึ่งผู้ที่ซื้อบัตรแล้ว สามารถเลื่อนการเข้าชมได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ส่วนราคาบัตรที่มีส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ผู้สนใจสามารถซื้อได้ถึงวันที่ 13 ธันวาคม แต่ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวที่ซื้อบัตรเข้าชมช่วงวันที่ 9 พฤศจิกายน ถึง 13 ธันวาคม มีความประสงค์จะเข้าชมงาน ก็สามารถเข้าชมได้แต่จะไม่ได้ชมกิจกรรมการแสดงต่างๆ เท่านั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:http://www.cm108.com/bbb/index.php?/topic/46554-eiaaiaoaaeae-asaaanaaaeioecaaaa/
ไปวันที่ 14 ธันวาคม 2554 ถึง 14 มีนาคม 2555
ซึ่งขณะนี้มีผู้จองบัตรเข้าชมแล้ว 1 แสน 4 หมื่นใบ
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายอุทัย นพคุณวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 และนายกัมพล นิสิตสุขเจริญ หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักบริหารจัดการงานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติ ฯ ราชพฤกษ์ 2554 ร่วมแถลงเลื่อนการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ออกไปจากเดิมวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2555 มาเป็นวันที่ 14 ธันวาคม 2554 ถึง 14 มีนาคม 2555 แทน เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการจัดงานและความไม่สะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่จะมาชมงาน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการจัดงาน ได้เร่งแจ้งเลื่อนการจัดงานไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจองบัตรเข้าชมแล้ว 1 แสน 4 หมื่นใบ คิดเป็นมูลค่า 14 ล้านบาท โดยคณะกรรมการจัดงานตั้งเป้าไว้ 2 ล้านใบ ซึ่งผู้ที่ซื้อบัตรแล้ว สามารถเลื่อนการเข้าชมได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ส่วนราคาบัตรที่มีส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ผู้สนใจสามารถซื้อได้ถึงวันที่ 13 ธันวาคม แต่ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวที่ซื้อบัตรเข้าชมช่วงวันที่ 9 พฤศจิกายน ถึง 13 ธันวาคม มีความประสงค์จะเข้าชมงาน ก็สามารถเข้าชมได้แต่จะไม่ได้ชมกิจกรรมการแสดงต่างๆ เท่านั้น
วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ติดต่อเรา Contact us
บ้านทรงจำโฮมสเตย์
บ้านทรงจำโฮมสเตย์ ที่พักย่านวัดเกต แหล่งชุมชนเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่
ยินดีต้อนรับนักเดินทางทุกท่าน ที่สนใจการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติกลางเมืองเชียงใหม่
บริการห้องพักแอร์/พัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น ทีวี (ห้องโถง) เครื่องซักผ้า
Internetแบบไร้สาย ( Wi-Fi )ตลอด 24 ช.ม.
สำหรับอาหารเช้า ทางเราอาจไม่ได้จัดให้ทั้งมื้อนะครับ แต่ทางเราจะเตรียมเครื่องดื่มจำพวก
ชา กาแฟ โอวัลติน ขนมปัง และไข่ ซึ่งแขกลงมือทำเองเป็นself serviceนะครับ
บ้านทรงจำโฮมสเตย์ ที่พักย่านวัดเกต แหล่งชุมชนเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่
ยินดีต้อนรับนักเดินทางทุกท่าน ที่สนใจการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติกลางเมืองเชียงใหม่
บริการห้องพักแอร์/พัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น ทีวี (ห้องโถง) เครื่องซักผ้า
Internetแบบไร้สาย ( Wi-Fi )ตลอด 24 ช.ม.
สำหรับอาหารเช้า ทางเราอาจไม่ได้จัดให้ทั้งมื้อนะครับ แต่ทางเราจะเตรียมเครื่องดื่มจำพวก
ชา กาแฟ โอวัลติน ขนมปัง และไข่ ซึ่งแขกลงมือทำเองเป็นself serviceนะครับ
บ้านทรงจำ : Songjum Homestay
246 ถนนเจริญราษฎร์ ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปรษณีย์ 50000
246 Charoenraj Rd.,Wat Ket.,Muang.,Chaiangmai 50000 Tel : 053-244994, 081-5688432Email : songjumhomestay@gmail.com
Website : http://baansongjum.blogspot.com/
Facebook : https://www.facebook.com/songjumhomestay
https://www.facebook.com/pages/Baan-SongJum-Wat-Ket
https://www.facebook.com/pages/Baan-SongJum
Airbnb.com : https://th.airbnb.com/s?host_id=152114
Expedia.com : http://www.expedia.co.th/Chiang-Mai-Hotels-Baan-Songjum-Homestay
Agoda.com : http://www.agoda.com/baan-songjum-homestay
Booking.com : http://www.booking.com/hotel/th/baan-songjum.th.html
Tripadvisor : http://th.tripadvisor.com/Hotel_Review-g293917-d2512359-Reviews-Baan_SongJum_Wat_Ket-Chiang_Mai.html
แผนที่ของที่พัก บ้านทรงจำโฮมสเตย์ Google map : https://goo.gl/maps/OVzeG
วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554
กว่าจะมาเป็นบ้านทรงจำ
ทั้งการซ่อมแซม เพิ่มเติม ตกแต่ง ไม่หยุดหย่อน ชวนให้ท้อใจ แต่ก็ต้องกัดฟันทำให้สำเร็จ
เพราะเป็นบ้านแห่งความหลัง ความทรงจำของครอบครัว เป็นบ้านที่คุณตาและคุณยายสร้างมากับมือ
บ้านทรงจำหลังนี้สร้างเสร็จตั้งแต่ ปี ค.ศ.1930 ถ้านับเป็นอายุคน ก็อยู่ราวๆ 82 ปี
บ้านทรงจำหลังนี้ เป็นบ้านไม้หลังใหญ่ใต้ถุนสูง สร้างจากไม้สักทั้งหลัง มีเสามากกว่า 20 ต้น
ซึ่งหากลองดูๆแล้วไม้แต่ละท่อนอาจดูไม่สวยนัก เพราะเป็นไม้สักที่ถูกฝรั่งค้าไม้สมัยนั้นคัดทิ้ง
เพราะไม่ได้ขนาด บางท่อนเล็กไป เบี้ยวไป คดบ้าง เอียงบ้าง แต่ก็เป็นบ้านที่อบอุ่น
ไหนๆก็กล่าวถึงคุณตาแล้ว ก็ขอเพิ่มเติมข้อมูลของคุณตาเล็กน้อย
คุณตานั้นเป็นชาวไทยใหญ่มีเชื้อเจ้านายของรัฐฉานหรือ “ชานสเตท” ที่อยู่ในพม่า
หลังจากที่จบในระดับมัธยมศึกษาที่ เมืองดาร์จีลิง ในอินเดีย
จึงไปศึกษาต่อในด้านป่าไม้ที่ มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง(Rangoon University)หลังจากนั้นได้โอกาสไปศึกษาต่อที่อังกฤษอีก 2 ปี แล้วได้มีโอกาสมาทำงานที่ประเทศไทย
และตั้งรกรากอยู่ที่เชียงใหม่ โดยได้ทำงานในบริษัททำไม้ชื่อดังต่างๆ ของอังกฤษ
ในAsia ได้แก่ บอมเบย์เบอร์ม่าร์, อีสต์เอเชียติก, หลุยส์ ที เลียวโนแวนส์
ซึ่งคุณตาเป็นผู้จัดการชาวเอเชียคนเดียวนอกจากนั้นเป็นฝรั่งหมดเลยเมื่อได้ไม้แล้ว คุณตาก็ให้คนงาน ชาวขมุ เอาขวานถากเสาไม้เป็นเหลี่ยม ไม่ใช้เลื่อยเลย
แล้วล่องซุงมาตามลำแม่น้ำปิง เมื่อถึงท่าก็จะใช้โซ่ร้อยกับซุงแล้วให้ช้างลากมายังพื้นที่ที่จะสร้างบ้าน
เนื่องจากคุณตา เป็นคนที่รักไม้มาก การสร้างบ้านหลังนี้จะหลีกเลี่ยงการตัดไม้โดยไม่จำเป็น
ซึ่งสังเกตได้จากพื้นกระดานที่ปลายไม่เท่ากัน ไม่มีการตัดให้พอดีกับขนาดของตัวห้อง
ปล่อยไว้ตามความยาวของไม้ บางห้องเสาไม้ก็ใช้เสาไม้ที่โก่งหรือโค้งไม่ตรง
บางต้นเอียงจนเกือบเป็นเส้นทแยงมุม บางต้นมีรอยเจาะเป็นช่องเพื่อใช้ร้อยโซ่ให้ช้างลาก
คุณตาก็จะปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น นอกจากตัวบ้านแล้ว เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่างๆในบ้าน
ซึ่งสังเกตได้จากพื้นกระดานที่ปลายไม่เท่ากัน ไม่มีการตัดให้พอดีกับขนาดของตัวห้อง
ปล่อยไว้ตามความยาวของไม้ บางห้องเสาไม้ก็ใช้เสาไม้ที่โก่งหรือโค้งไม่ตรง
บางต้นเอียงจนเกือบเป็นเส้นทแยงมุม บางต้นมีรอยเจาะเป็นช่องเพื่อใช้ร้อยโซ่ให้ช้างลาก
คุณตาก็จะปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น นอกจากตัวบ้านแล้ว เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่างๆในบ้าน
คุณตาก็จะทำเอง(หมายถึงให้ลูกน้องที่เป็นช่างไม้เป็นลูกมือช่วยกันทำ) อย่างเช่น โต๊ะทานข้าวชุดเล็ก
สามารถนั่งทานได้สี่ที่ แต่หากมีแขกมาทานข้าวด้วย คุณตาจะมีกระดานไม้สักขนาดใหญ่
ครอบโต๊ะกินข้าวอีกที ทำให้สามารถนั่งร่วมกันทานข้าวได้ถึงแปดคน
งานไม้ของคุณตาแม้ว่าจะมีฝีมือหยาบๆ ไม่สวยแบบที่เขาทำขายกัน
แต่ก็มีความหมายกับคนในครอบครัวมากและยังใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้
พูดถึงบ้านทรงจำ เมื่อกลายเป็นโฮมสเตย์แล้ว
อยากให้เป็นบ้านพักที่อบอุ่น อยู่แบบคนเชียงใหม่
คือ ตื่นเช้าเดินไปจ่ายตลาด หาอะไรกลับมาทาน
หรือจะซื้อผักและเนื้อสัตว์มาทำอาหารทานที่บ้านก็ได้
หากเป็นวันพระก็สามารถนั่งสามล้อถีบไปทำบุญ
หรือนึกอยากนั่งสามล้อถีบไปโน่นมานี่ในตัวเมืองเชียงใหม่ได้ตามชอบ
หรือไม่อยากไปเที่ยวไหนก็สามารถหามุมสงบ สบายๆนั่งอ่านหนังสือเพลินๆก็ได้
คืออยากให้รู้สึกว่าไปเที่ยวแล้วกลับมาพักก็อบอุ่น
หากไม่อยากไปไหนก็สามารถอยู่ที่บ้านทรงจำได้ไม่อึดอัดเหมือนว่าเป็นบ้านของตนเอง
" ท้ายนี้ก็ไม่มีอะไรนอกจากความอยากที่จะต้อนรับทุกท่านที่จะมาเยือนเชียงใหม่
และปรารถนาที่จะพักในย่านวัฒนธรรมเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ ร่วมใช้ชีวิตในแบบคนเชียงใหม่
และร่วมเป็นความทรงจำที่ดีต่อกันและกัน ขอบคุณและยินดีต้อนรับทุกท่าน.......บ้านทรงจำโฮมสเตย์"
สามารถนั่งทานได้สี่ที่ แต่หากมีแขกมาทานข้าวด้วย คุณตาจะมีกระดานไม้สักขนาดใหญ่
ครอบโต๊ะกินข้าวอีกที ทำให้สามารถนั่งร่วมกันทานข้าวได้ถึงแปดคน
งานไม้ของคุณตาแม้ว่าจะมีฝีมือหยาบๆ ไม่สวยแบบที่เขาทำขายกัน
แต่ก็มีความหมายกับคนในครอบครัวมากและยังใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้
พูดถึงบ้านทรงจำ เมื่อกลายเป็นโฮมสเตย์แล้ว
อยากให้เป็นบ้านพักที่อบอุ่น อยู่แบบคนเชียงใหม่
คือ ตื่นเช้าเดินไปจ่ายตลาด หาอะไรกลับมาทาน
หรือจะซื้อผักและเนื้อสัตว์มาทำอาหารทานที่บ้านก็ได้
หากเป็นวันพระก็สามารถนั่งสามล้อถีบไปทำบุญ
หรือนึกอยากนั่งสามล้อถีบไปโน่นมานี่ในตัวเมืองเชียงใหม่ได้ตามชอบ
หรือไม่อยากไปเที่ยวไหนก็สามารถหามุมสงบ สบายๆนั่งอ่านหนังสือเพลินๆก็ได้
คืออยากให้รู้สึกว่าไปเที่ยวแล้วกลับมาพักก็อบอุ่น
หากไม่อยากไปไหนก็สามารถอยู่ที่บ้านทรงจำได้ไม่อึดอัดเหมือนว่าเป็นบ้านของตนเอง
" ท้ายนี้ก็ไม่มีอะไรนอกจากความอยากที่จะต้อนรับทุกท่านที่จะมาเยือนเชียงใหม่
และปรารถนาที่จะพักในย่านวัฒนธรรมเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ ร่วมใช้ชีวิตในแบบคนเชียงใหม่
และร่วมเป็นความทรงจำที่ดีต่อกันและกัน ขอบคุณและยินดีต้อนรับทุกท่าน.......บ้านทรงจำโฮมสเตย์"
วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554
ลืมบอกกล่าวกันไปว่าบ้านทรงจำก็มีระเบียบเหมือนกันแต่ไม่หยุมหยิม ให้รำคาญใจ
ลืมบอกกล่าวกันไปว่าบ้านทรงจำก็มีระเบียบเหมือนกันแต่ไม่หยุมหยิม
ให้รำคาญใจ พอรับกันได้เชิญอ่านและเชิญมาเที่ยวเชียงใหม่ในฤดูหนาวนี้
We would appreciate you complying with the following points for the health
and safety of you or your group and for the convenience and comfort of the rest
of the guests staying at the guest house. It is important to respect their needs
for a peaceful and relaxing stay.
1. In respect of privacy, please close your room door at all times.
เพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านกรุณาปิดประตูห้องพักของท่านเสมอ
2. Removing or re-arranging any furniture is not permitted.
กรุณาอย่าเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์
3. Pets are not permitted.
ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าห้องพัก
4. No Smoking inside guest rooms
ห้ามสูบบุหรี่ภายในห้องพัก
5. Smoking is only allowed outside where it does not offend other guests,
Please dispose of litter in the bins provided.
ท่านสามารถสูบบุหรี่ในพื้นที่ที่จัดไว้ และกรุณาทิ้งเถ้าบุหรี่และก้นกรองบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่หรือถังขยะ
6. Please help conserve energy by turning off unused electrical equipment.
กรุณาช่วยกันประหยัดพลังงานโดยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น
7. Please report any problems or damage in your guest room immediately to avoid any
misunderstanding. Registered guest will be held responsible for any damages to Baan SongJum property
caused by themselves or their guests.
หากเกิดความเสียหายกับทรัพย์สินภายในห้องหรือในบริเวณซึ่งเป็นทรัพย์สินของบ้านทรงจำ โดยมีสาเหตุมาจากท่าน เพื่อนร่วมห้องของท่านหรือแขกของผู้ที่เข้าพัก ผู้ที่ลงทะเบียนเช่าห้องพักต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายนั้น
หวังว่าจะไม่เยอะเกินไปจนน่ารำคาญ หรือน้อยเกินไปจนหย่อนยานนะครับ....ขอบคุณครับ
จาก บ้านทรงจำ
ท้ายนี้ขอเพิ่มเล็กน้อยในส่วนของการเช็คอินและการเช็คเอาท์
เวลาเช็คอิน ขอตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไปนะครับเพราะเนื่องจากเวลาเช็คเอาท์จะอยู่ที่ ไม่เกินเที่ยงวันนะครับ
หวังว่าจะไม่เยอะเกินไปจนน่ารำคาญ หรือน้อยเกินไปจนหย่อนยานนะครับ....ขอบคุณครับ
จาก บ้านทรงจำ
ท้ายนี้ขอเพิ่มเล็กน้อยในส่วนของการเช็คอินและการเช็คเอาท์
เวลาเช็คอิน ขอตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไปนะครับเพราะเนื่องจากเวลาเช็คเอาท์จะอยู่ที่ ไม่เกินเที่ยงวันนะครับ
ป้ายกำกับ:
เกสท์เฮาส์,
เชียงใหม่,
บ้านทรงจำ,
วัดเกต,
อำเภอเมือง
วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554
เรื่องถนนคนเดิน by บ้านทรงจำ โฮมสเตย์
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงใหม่นั้น หากพลาดการเดินถนนคนเดิน
คงไม่ต่างกับ กินข้าวแล้วไม่ได้ใส่น้ำปลาหรือ มีช้อน แต่ไม่มีส้อม คือ กินข้าวได้เหมือนกัน
แต่...ก็ไม่ครบเครื่องไงครับ เพราะฉนั้น หากมาเชียงใหม่แล้วพลาด
รายการท่องเที่ยวนี้ไป เสียดายแย่เลย จริงๆแล้วก็ไม่ใช่แต่นักท่องเที่ยวนะครับ
คนเชียงใหม่เองก็ติดอกติดใจการเดินชมความคึกคักของถนนคนเดิน เช่นเดียวกัน
ถนนคนเดินนั้นเมื่อแรกเริ่ม จะมีเพียงถนนคนเดินวันอาทิตย์ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
เขาขนานนามกันว่า"Chiangmai Sunday Walking street"
และสืบเนื่องจากความประสบความสำเร็จของถนนคนเดินวันอาทิตย์
จังหวัดเชียงใหม่จึงปลุกปั้นถนนคนเดินขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนถนนวัวลาย
ซึ่งเป็นชุมชนผลิตเครื่องเงินเก่าแก่และมีชื่อเสียงของเชียงใหม่
แต่ถนนคนเดินวัวลายนี้จัดเฉพาะวันเสาร์นะครับ ถ้าจัดวันอาทิตย์เดี๋ยวจะเดินกันไม่ไหว
เอาเป็นว่าวันเสาร์เดินวัวลาย วันอาทิตย์เดินท่าแพกันเถอะครับ
"ถนนคนเดินวันอาทิตย์" (Chiangmai Sunday Walking Street)
จัดขึ้นบนถนนราชดำเนิน ตัดกับถนนพระปกเกล้าที่จัดขึ้นทุกบ่าย-ค่ำยันดึก
ทุกวันอาทิตย์ กลายเป็นตลาดบนถนนรูปกากบาทตัดใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่มีคูเมืองล้อมรอบ
ผู้คนคลาคล่ำ ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินสวนกันแบบไม่ต้องมีกฎจราจร
และนับเป็นถนนคนเดินนำร่องแห่งแรกที่รัฐบาลและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ริเริ่มจัดขึ้น
ที่ถนนท่าแพในปี 2545 หลังจากจัดขึ้นประมาณ 10 ครั้งก็ได้มอบหมายให้เทศบาลนครเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพดูแลจากนั้นได้ย้ายมาปักหลักเปิดที่ ถนนราช ดำเนิน จนประสบความสำเร็จจนทุกวันนี้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเชียงใหม่ และถูกบรรจุในโปรแกรมการท่องเที่ยวโลกไปแล้ว
....ถนนคนเดินแห่งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สถานที่ ให้ผู้คนเดินจับจ่ายซื้อของที่ระลึกแต่ยังเป็นที่สร้างกิจกรรมหลากหลายให้เกิดขึ้น ทั้งนักดนตรีไทยตัวน้อยและรุ่นใหญ่ที่นั่งเล่นดนตรี เปิดหมวกกลางถนนอย่างไม่ขัดเขิน ซุ้มนวดแผนโบราณแทรกซึมไปทุกระยะ เพื่อรอบริการนักท่องเที่ยวที่เหนื่อยจากการเดินชมสินค้า สินค้าหัตถกรรมสวยงามเรียงรายสลับกันตลอดเส้นทาง มีทั้งแบบชิ้นเดียวในโลก และทำกับมือให้เห็นกัน
ก็มีอยู่มาก เป็นสีสันที่หาดูได้ยาก
ถนนคนเดินนั้นเป็นสถานบ่มเพาะผู้ประกอบการขนาดย่อม หรือ SMEs เกิดขึ้นมากมาย ด้วยความหลากหลายของสินค้าและความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ทำให้เจ้าของธุรกิจหลายรายประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรายได้ สร้างงานแก่ตนเองและชาวเชียงใหม่
จากข้อมูลของเทศบาลนครเชียงใหม่ พบว่าปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าบนถนนราชดำเนินและจุดสี่แยกกลางเวียง รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 3,000 ร้านค้า
มีผู้คนเดินอาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 50,000 คน
แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยที่มาจากต่างจังหวัดประมาณ 30%
คนภายในจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงประมาณ 50%
และนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 20%ล่าสุดจากการประเมิน
มูลค่าการขายทั้งหมดพบว่ามีเงินสะพัดมากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี
"ถนนคนเดินวัวลาย" ( Walking cow pattern )
นอกเหนือจากความสำเร็จของ "ถนนคนเดินวันอาทิตย์" ที่ลอยติดลมบนไปไกลแล้ว
เทศบาลนครเชียงใหม่ยังมีความพยายามที่ จะปลุกปั้นถนนสายอื่นๆ ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่
ให้กลายเป็นถนนคนเดินขึ้นมาอีกเส้นหนึ่ง นั่นคือ "ถนนคนเดินวัวลาย" บรรยากาศของถนนคนเดินวัวลายมิได้แตกต่างจากถนนราชดำเนินมากนัก แต่เสน่ห์อยู่ที่ถนนที่มีเอกลักษณ์ทางด้านเครื่องเงิน การตีเงิน มีชุมชนดั้งเดิมที่ยังอนุรักษ์หมู่บ้านผลิตเครื่องเงินโบราณของจังหวัดเชียงใหม่ไว้อยู่
...ถนนคนเดินสายนี้ เปิดขึ้นทุกบ่าย-ค่ำของทุกวันเสาร์ เพื่อต้องการพลิกฟื้นประวัติศาสตร์
ของแหล่งชุมชนผลิตเครื่องเงินที่มีชื่อเสียงของเชียงใหม่และเพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่
ที่หลากหลายให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศมีแหล่งซื้อขาย พักผ่อน
และซึมซับบรรยากาศแบบทางเหนืออีกแห่งหนึ่ง
โดยได้เริ่มทดลองตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2547
กระทั่งล่าสุดได้ประกาศทำโครงการต่อเนื่องไปอีกโดยไม่มีกำหนด เพื่อพัฒนาให้เป็น
แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่แบบยั่งยืนของเชียงใหม่ควบคู่กับถนนคนเดินวันอาทิตย์
**และหากท่านได้มาเยี่ยมเยียนเชียงใหม่แล้วกำลังมองหาที่พักที่สงบ
อยู่ในตัวเมือง และย่านวัฒนธรรมอันเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่
ขอแนะนำ "บ้านทรงจำโฮมสเตย์"
เกสท์เฮาส์เล็กๆ ที่จะทำให้ท่านเข้าถึงบรรยากาศแบบล้านนา**
คงไม่ต่างกับ กินข้าวแล้วไม่ได้ใส่น้ำปลาหรือ มีช้อน แต่ไม่มีส้อม คือ กินข้าวได้เหมือนกัน
แต่...ก็ไม่ครบเครื่องไงครับ เพราะฉนั้น หากมาเชียงใหม่แล้วพลาด
รายการท่องเที่ยวนี้ไป เสียดายแย่เลย จริงๆแล้วก็ไม่ใช่แต่นักท่องเที่ยวนะครับ
คนเชียงใหม่เองก็ติดอกติดใจการเดินชมความคึกคักของถนนคนเดิน เช่นเดียวกัน
เขาขนานนามกันว่า"Chiangmai Sunday Walking street"
และสืบเนื่องจากความประสบความสำเร็จของถนนคนเดินวันอาทิตย์
จังหวัดเชียงใหม่จึงปลุกปั้นถนนคนเดินขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนถนนวัวลาย
ซึ่งเป็นชุมชนผลิตเครื่องเงินเก่าแก่และมีชื่อเสียงของเชียงใหม่
แต่ถนนคนเดินวัวลายนี้จัดเฉพาะวันเสาร์นะครับ ถ้าจัดวันอาทิตย์เดี๋ยวจะเดินกันไม่ไหว
เอาเป็นว่าวันเสาร์เดินวัวลาย วันอาทิตย์เดินท่าแพกันเถอะครับ
"ถนนคนเดินวันอาทิตย์" (Chiangmai Sunday Walking Street)
จัดขึ้นบนถนนราชดำเนิน ตัดกับถนนพระปกเกล้าที่จัดขึ้นทุกบ่าย-ค่ำยันดึก
ทุกวันอาทิตย์ กลายเป็นตลาดบนถนนรูปกากบาทตัดใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่มีคูเมืองล้อมรอบ
ผู้คนคลาคล่ำ ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินสวนกันแบบไม่ต้องมีกฎจราจร
และนับเป็นถนนคนเดินนำร่องแห่งแรกที่รัฐบาลและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ริเริ่มจัดขึ้น
ที่ถนนท่าแพในปี 2545 หลังจากจัดขึ้นประมาณ 10 ครั้งก็ได้มอบหมายให้เทศบาลนครเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพดูแลจากนั้นได้ย้ายมาปักหลักเปิดที่ ถนนราช ดำเนิน จนประสบความสำเร็จจนทุกวันนี้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเชียงใหม่ และถูกบรรจุในโปรแกรมการท่องเที่ยวโลกไปแล้ว
....ถนนคนเดินแห่งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สถานที่ ให้ผู้คนเดินจับจ่ายซื้อของที่ระลึกแต่ยังเป็นที่สร้างกิจกรรมหลากหลายให้เกิดขึ้น ทั้งนักดนตรีไทยตัวน้อยและรุ่นใหญ่ที่นั่งเล่นดนตรี เปิดหมวกกลางถนนอย่างไม่ขัดเขิน ซุ้มนวดแผนโบราณแทรกซึมไปทุกระยะ เพื่อรอบริการนักท่องเที่ยวที่เหนื่อยจากการเดินชมสินค้า สินค้าหัตถกรรมสวยงามเรียงรายสลับกันตลอดเส้นทาง มีทั้งแบบชิ้นเดียวในโลก และทำกับมือให้เห็นกัน
ก็มีอยู่มาก เป็นสีสันที่หาดูได้ยาก
ถนนคนเดินนั้นเป็นสถานบ่มเพาะผู้ประกอบการขนาดย่อม หรือ SMEs เกิดขึ้นมากมาย ด้วยความหลากหลายของสินค้าและความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ทำให้เจ้าของธุรกิจหลายรายประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรายได้ สร้างงานแก่ตนเองและชาวเชียงใหม่
จากข้อมูลของเทศบาลนครเชียงใหม่ พบว่าปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าบนถนนราชดำเนินและจุดสี่แยกกลางเวียง รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 3,000 ร้านค้า
มีผู้คนเดินอาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 50,000 คน
แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยที่มาจากต่างจังหวัดประมาณ 30%
คนภายในจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงประมาณ 50%
และนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 20%ล่าสุดจากการประเมิน
มูลค่าการขายทั้งหมดพบว่ามีเงินสะพัดมากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี
"ถนนคนเดินวัวลาย" ( Walking cow pattern )
นอกเหนือจากความสำเร็จของ "ถนนคนเดินวันอาทิตย์" ที่ลอยติดลมบนไปไกลแล้ว
เทศบาลนครเชียงใหม่ยังมีความพยายามที่ จะปลุกปั้นถนนสายอื่นๆ ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่
ให้กลายเป็นถนนคนเดินขึ้นมาอีกเส้นหนึ่ง นั่นคือ "ถนนคนเดินวัวลาย" บรรยากาศของถนนคนเดินวัวลายมิได้แตกต่างจากถนนราชดำเนินมากนัก แต่เสน่ห์อยู่ที่ถนนที่มีเอกลักษณ์ทางด้านเครื่องเงิน การตีเงิน มีชุมชนดั้งเดิมที่ยังอนุรักษ์หมู่บ้านผลิตเครื่องเงินโบราณของจังหวัดเชียงใหม่ไว้อยู่
...ถนนคนเดินสายนี้ เปิดขึ้นทุกบ่าย-ค่ำของทุกวันเสาร์ เพื่อต้องการพลิกฟื้นประวัติศาสตร์
ของแหล่งชุมชนผลิตเครื่องเงินที่มีชื่อเสียงของเชียงใหม่และเพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่
ที่หลากหลายให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศมีแหล่งซื้อขาย พักผ่อน
และซึมซับบรรยากาศแบบทางเหนืออีกแห่งหนึ่ง
โดยได้เริ่มทดลองตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2547
กระทั่งล่าสุดได้ประกาศทำโครงการต่อเนื่องไปอีกโดยไม่มีกำหนด เพื่อพัฒนาให้เป็น
แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่แบบยั่งยืนของเชียงใหม่ควบคู่กับถนนคนเดินวันอาทิตย์
คำแนะนำ
การเดินทางโดยรถยนต์ :
- ถนนคนเดินเชียงใหม่ ถนนวัวลาย (วันเสาร์) สามารถจอดรถได้ที่หัวถนนและท้ายถนน
- คือ ข้างถนนด้านประตูเชียงใหม่และถนนทิพย์เนตร
- ถนนคนเดินเชียงใหม่ ท่าแพ (วันอาทิตย์)
- เริ่มต้นจากประตูท่าแพไปตามถนนราชดำเนิน
- สามารถจอดรถได้โดยรอบ ถ้ามาค่ำอาจต้องเดินไกลหน่อยเพราะหาที่จอดยาก
- การเดินทางโดยรถประจำทาง :
- โบกรถสองแถวแดง ได้จากทุกที่ในเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถรับจ้างไม่ประจำทาง
- บอกคนขับว่า ต้องการไปถนนคนเดินท่าแพ รับรองว่าไม่มีทางหลงแน่นอน
- ค่ารถประมาณ 20 บาทถ้ากลับดึกหน่อยก็มีรถ ตุ๊ก ตุ๊ก จอดให้บริการอยู่ตรงประตูท่าแพ
- ราคาแล้วแต่ต่อรอง
- แผนที่ของถนนคนเดิน :
- ถนนคนเดิน ท่าแพ(วันอาทิตย์)
อันนี้มีบอกหลายแห่งครับ- แนะนำทิ้งท้าย :
- ช่วงเวลาแดดร่มลมตกไปจนถึงยามค่ำของวันอาทิตย์
- คือเวลาที่เหมาะสมกับการเดินถนนคนเดินมากที่สุด
- เพราะอากาศกำลังเย็นสบาย และมีร้านรวงต่างเปิดกันพร้อมพรั่งแล้ว
- ในวันเสาร์จะมีถนนคนเดินที่ ถนนวัวลาย มาเที่ยวถนนคนเดินวัวลายวันเสาร์
- สามารถจอดรถได้ที่หัวถนนและท้ายถนน
- คือ ข้างถนนด้านประตูเชียงใหม่และถนนทิพย์เนตร
- ควรใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่สบายๆ เพราะคนเยอะและอาจต้องเดินไกลกว่าที่คิดไว้
- เพราะมีแต่ของน่าสนใจทั้งนั้นเลย
ถนนคนเดินท่าแพ วัวลาย ย่านนิมมานฯ ย่านไนท์บาร์ซาร์ แต่อย่าลืมพักที่บ้านทรงจำนะครับ |
**และหากท่านได้มาเยี่ยมเยียนเชียงใหม่แล้วกำลังมองหาที่พักที่สงบ
อยู่ในตัวเมือง และย่านวัฒนธรรมอันเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่
ขอแนะนำ "บ้านทรงจำโฮมสเตย์"
เกสท์เฮาส์เล็กๆ ที่จะทำให้ท่านเข้าถึงบรรยากาศแบบล้านนา**
วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554
งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554
สำหรับในช่วงฤดูการท่องเที่ยวที่ใกล้จะมาถึงนี้
อยากขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านที่จะมาเยือนเชียงใหม่
มางาน งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554
งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554
อยากขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านที่จะมาเยือนเชียงใหม่
มางาน งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554
งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554
|
ป้ายกำกับ:
งานราชพฤกษ์,
เชียงใหม่,
ซื้อ,
บัตรเข้าชม,
พืชสวนโลก,
ราคาถูก
วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554
บ้านทรงจำโฮมสเตย์ เกสท์เฮาส์เล็กๆ อบอุ่น ในรูปแบบโฮมสเตย์
บ้านทรงจำโฮมสเตย์ ที่พักย่านวัดเกต แหล่งชุมชนเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่
เกสท์เฮาส์ขนาดเล็ก ราคาย่อมเยา ยินดีต้อนรับนักเดินทางทุกท่าน
ที่สนใจการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติในย่านวัฒนธรรมกลางเมืองเชียงใหม่
ให้บริการห้องพักแอร์/พัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า
Internet แบบไร้สาย ( Wi-Fi ) ตลอด 24 ช.ม.
ในส่วนของราคาห้องพัก มีอยู่ 8 ห้อง แบ่งเป็น
ห้องพักติดเครื่องปรับอากาศ จำนวน 4 ห้อง ราคา550 บาท ต่อคืน
และ ห้องพักอีก 4 ห้องที่เหลือ เป็นห้องพักติดพัดลม ราคา 450 บาท ต่อคืน
ห้องพักสามารถพักได้ห้องละสองท่าน
สนใจเข้าพักและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ติดต่อได้ที่ songjumhomestay@gmail.com
053-244994, 081-5688432
เรายินดีต้อนรับทุกท่าน
บ้านทรงจำ โฮมสเตย์
053-244994, 081-5688432
เกสท์เฮาส์ขนาดเล็ก ราคาย่อมเยา ยินดีต้อนรับนักเดินทางทุกท่าน
ที่สนใจการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติในย่านวัฒนธรรมกลางเมืองเชียงใหม่
ให้บริการห้องพักแอร์/พัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า
Internet แบบไร้สาย ( Wi-Fi ) ตลอด 24 ช.ม.
ในส่วนของราคาห้องพัก มีอยู่ 8 ห้อง แบ่งเป็น
ห้องพักติดเครื่องปรับอากาศ จำนวน 4 ห้อง ราคา550 บาท ต่อคืน
และ ห้องพักอีก 4 ห้องที่เหลือ เป็นห้องพักติดพัดลม ราคา 450 บาท ต่อคืน
ห้องพักสามารถพักได้ห้องละสองท่าน
สนใจเข้าพักและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ติดต่อได้ที่ songjumhomestay@gmail.com
053-244994, 081-5688432
เรายินดีต้อนรับทุกท่าน
บ้านทรงจำ โฮมสเตย์
053-244994, 081-5688432
บ้านทรงจำ โฮมสเตย์ เกสท์เฮาส์เล็กๆ ที่สงบ สดชื่น แม้อยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ |
ป้ายกำกับ:
เกสท์เฮาส์,
เชียงใหม่,
ราคาถูก,
ริมแม่น้ำปิง,
อำเภอเมือง,
โฮมสเตย์,
wifi
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)