วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

กว่าจะมาเป็นบ้านทรงจำ












กว่าที่จะมาเป็นเกสท์เฮาส์เล็กๆแห่งนี้ บ้านทรงจำต้องผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย
ทั้งการซ่อมแซม เพิ่มเติม ตกแต่ง ไม่หยุดหย่อน ชวนให้ท้อใจ แต่ก็ต้องกัดฟันทำให้สำเร็จ
เพราะเป็นบ้านแห่งความหลัง ความทรงจำของครอบครัว เป็นบ้านที่คุณตาและคุณยายสร้างมากับมือ
บ้านทรงจำหลังนี้สร้างเสร็จตั้งแต่ ปี ค.ศ.1930 ถ้านับเป็นอายุคน ก็อยู่ราวๆ 82 ปี
บ้านทรงจำหลังนี้ เป็นบ้านไม้หลังใหญ่ใต้ถุนสูง สร้างจากไม้สักทั้งหลัง มีเสามากกว่า 20 ต้น
ซึ่งหากลองดูๆแล้วไม้แต่ละท่อนอาจดูไม่สวยนัก เพราะเป็นไม้สักที่ถูกฝรั่งค้าไม้สมัยนั้นคัดทิ้ง
เพราะไม่ได้ขนาด บางท่อนเล็กไป เบี้ยวไป คดบ้าง เอียงบ้าง แต่ก็เป็นบ้านที่อบอุ่น
ไหนๆก็กล่าวถึงคุณตาแล้ว ก็ขอเพิ่มเติมข้อมูลของคุณตาเล็กน้อย
คุณตานั้นเป็นชาวไทยใหญ่มีเชื้อเจ้านายของรัฐฉานหรือ “ชานสเตท” ที่อยู่ในพม่า
หลังจากที่จบในระดับมัธยมศึกษาที่ เมืองดาร์จีลิง ในอินเดีย
จึงไปศึกษาต่อในด้านป่าไม้ที่ มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง(Rangoon University)

หลังจากนั้นได้โอกาสไปศึกษาต่อที่อังกฤษอีก 2 ปี แล้วได้มีโอกาสมาทำงานที่ประเทศไทย
และตั้งรกรากอยู่ที่เชียงใหม่ โดยได้ทำงานในบริษัททำไม้ชื่อดังต่างๆ ของอังกฤษ
ในAsia ได้แก่ บอมเบย์เบอร์ม่าร์, อีสต์เอเชียติก, หลุยส์ ที เลียวโนแวนส์
ซึ่งคุณตาเป็นผู้จัดการชาวเอเชียคนเดียวนอกจากนั้นเป็นฝรั่งหมดเลย
 













เมื่อได้ไม้แล้ว
คุณตาก็ให้คนงาน ชาวขมุ เอาขวานถากเสาไม้เป็นเหลี่ยม ไม่ใช้เลื่อยเลย
แล้วล่องซุงมาตามลำแม่น้ำปิง เมื่อถึงท่าก็จะใช้โซ่ร้อยกับซุงแล้วให้ช้างลากมายังพื้นที่ที่จะสร้างบ้าน
เนื่องจากคุณตา เป็นคนที่รักไม้มาก การสร้างบ้านหลังนี้จะหลีกเลี่ยงการตัดไม้โดยไม่จำเป็น
 ซึ่งสังเกตได้
จากพื้นกระดานที่ปลายไม่เท่ากัน ไม่มีการตัดให้พอดีกับขนาดของตัวห้อง

 ปล่อยไว้ตามความยาวของไม้ บางห้องเสาไม้ก็ใช้เสาไม้ที่โก่งหรือโค้งไม่ตรง
 บางต้นเอียงจนเกือบเป็นเส้นทแยงมุม บางต้นมีรอยเจาะเป็นช่องเพื่อใช้ร้อยโซ่ให้ช้างลาก
 คุณตาก็จะปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น
นอกจากตัวบ้านแล้ว เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่างๆในบ้าน
คุณตาก็จะทำเอง(หมายถึงให้ลูกน้องที่เป็นช่างไม้เป็นลูกมือช่วยกันทำ) อย่างเช่น โต๊ะทานข้าวชุดเล็ก
สามารถนั่งทานได้สี่ที่ แต่หากมีแขกมาทานข้าวด้วย คุณตาจะมีกระดานไม้สักขนาดใหญ่
ครอบโต๊ะกินข้าวอีกที ทำให้สามารถนั่งร่วมกันทานข้าวได้ถึงแปดคน
งานไม้ของคุณตาแม้ว่าจะมีฝีมือหยาบๆ ไม่สวยแบบที่เขาทำขายกัน
แต่ก็มีความหมายกับคนในครอบครัวมากและยังใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้

พูดถึงบ้านทรงจำ เมื่อกลายเป็นโฮมสเตย์แล้ว
อยากให้เป็นบ้านพักที่อบอุ่น อยู่แบบคนเชียงใหม่
 คือ ตื่นเช้าเดินไปจ่ายตลาด หาอะไรกลับมาทาน
หรือจะซื้อผักและเนื้อสัตว์มาทำอาหารทานที่บ้านก็ได้
หากเป็นวันพระก็สามารถนั่งสามล้อถีบไปทำบุญ
หรือนึกอยากนั่งสามล้อถีบไปโน่นมานี่ในตัวเมืองเชียงใหม่ได้ตามชอบ
หรือไม่อยากไปเที่ยวไหนก็สามารถหามุมสงบ สบายๆนั่งอ่านหนังสือเพลินๆก็ได้
คืออยากให้รู้สึกว่าไปเที่ยวแล้วกลับมาพักก็อบอุ่น
หากไม่อยากไปไหนก็สามารถอยู่ที่บ้านทรงจำได้ไม่อึดอัดเหมือนว่าเป็นบ้านของตนเอง

" ท้ายนี้ก็ไม่มีอะไรนอกจากความอยากที่จะต้อนรับทุกท่านที่จะมาเยือนเชียงใหม่
และปรารถนาที่จะพักในย่านวัฒนธรรมเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ ร่วมใช้ชีวิตในแบบคนเชียงใหม่
และร่วมเป็นความทรงจำที่ดีต่อกันและกัน 
ขอบคุณและยินดีต้อนรับทุกท่าน.......บ้านทรงจำโฮมสเตย์"

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

ลืมบอกกล่าวกันไปว่าบ้านทรงจำก็มีระเบียบเหมือนกันแต่ไม่หยุมหยิม ให้รำคาญใจ


 ลืมบอกกล่าวกันไปว่าบ้านทรงจำก็มีระเบียบเหมือนกันแต่ไม่หยุมหยิม
ให้รำคาญใจ พอรับกันได้เชิญอ่านและเชิญมาเที่ยวเชียงใหม่ในฤดูหนาวนี้

We would appreciate you complying with the following points for the health 
and safety of you or your group and for the convenience and comfort of the rest 
of the guests staying at the guest house. It is important to respect their needs 
for a peaceful and relaxing stay.

1. In respect of privacy, please close your room door at all times.
    เพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านกรุณาปิดประตูห้องพักของท่านเสมอ
2. Removing or re-arranging any furniture is not permitted.
    กรุณาอย่าเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์
3. Pets are not permitted.
   ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าห้องพัก
4. No Smoking inside guest rooms
   ห้ามสูบบุหรี่ภายในห้องพัก
5. Smoking is only allowed outside where it does not offend other guests, 
    Please dispose of litter in the bins provided.
    ท่านสามารถสูบบุหรี่ในพื้นที่ที่จัดไว้ และกรุณาทิ้งเถ้าบุหรี่และก้นกรองบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่หรือถังขยะ
6. Please help conserve energy by turning off unused electrical equipment. 
   กรุณาช่วยกันประหยัดพลังงานโดยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น
7. Please report any problems or damage in your guest room immediately to avoid any
 misunderstanding. Registered guest will be held responsible for any damages to Baan SongJum property 
caused by themselves or their guests.  
  หากเกิดความเสียหายกับทรัพย์สินภายในห้องหรือในบริเวณซึ่งเป็นทรัพย์สินของบ้านทรงจำ โดยมีสาเหตุมาจากท่าน เพื่อนร่วมห้องของท่านหรือแขกของผู้ที่เข้าพัก ผู้ที่ลงทะเบียนเช่าห้องพักต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายนั้น


หวังว่าจะไม่เยอะเกินไปจนน่ารำคาญ หรือน้อยเกินไปจนหย่อนยานนะครับ....ขอบคุณครับ


จาก บ้านทรงจำ
ท้ายนี้ขอเพิ่มเล็กน้อยในส่วนของการเช็คอินและการเช็คเอาท์
เวลาเช็คอิน ขอตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไปนะครับเพราะเนื่องจากเวลาเช็คเอาท์จะอยู่ที่ ไม่เกินเที่ยงวันนะครับ